กรุงเทพฯ, 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 — โครงการพลังสะอาด เข้าถึงได้ และมั่นคงสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (CASE) และโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมันด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (TGC EMC) ซึ่งดำเนินการโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย ร่วมกันจัดงานเวิร์กชอปในหัวข้อ “วิสัยทัศน์พลังงานหมุนเวียนไทย 2030” ณ ห้องสยาม ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท
ภายในงานมีผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้า ผู้กำหนดนโยบาย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากภาคอุตสาหกรรม มาเข้าร่วมเพื่อหารือบทบาทสำคัญของพลังงานหมุนเวียนในการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของไทย และสนับสนุนเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอนในภาคไฟฟ้าภายในปี พ.ศ. 2573
คุณวัชรินทร์ บุญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คุณโยฮันเนส แคร์เนอร์ ที่ปรึกษาทูตฝ่ายเศรษฐกิจและการค้า สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย และคุณซาช่า อ้อปโปว่า ผู้อำนวยการโครงการ CASE จาก GIZ ร่วมกล่าวเปิดงาน
คุณวัชรินทร์ เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเร่งรัดการใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศไทยเพื่อรองรับความต้องการพลังงานอย่างยั่งยืนว่า: “ความพยายามในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทยเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหลากหลายภาคส่วน ทั้งด้านนโยบาย การกำกับดูแล ผู้ให้บริการ ภาคเอกชน สถาบันวิชาการ และประชาชนทั่วไป เวทีระดมสมองในวันนี้จึงเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อผลักดันเป้าหมายปี พ.ศ. 2573”
คุณโยฮันเนส แคร์เนอร์ กล่าวระหว่างพิธีเปิดว่า: “เวิร์กชอปวันนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในความพยายามเพื่อการเปลี่ยนผ่านพลังงาน โดยเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนข้อมูลงานวิจัย พูดคุยหารือด้านการลงทุน และหารือแนวทางการดำเนินงาน ทุกคนที่เข้าร่วมงานในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความตั้งใจร่วมกันเพื่อการเปลี่ยนผ่านพลังงาน นอกจากนี้ ผมขอเน้นย้ำว่า ประเทศเยอรมนียังคงเป็นประเทศคู่ทำงานที่พึงพาได้ของประเทศไทยเพื่อการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ผ่านกิจกรรมความร่วมมือเชิงเทคนิค เวทีพูดคุยระหว่างรัฐ และความร่วมมือระยะยาว”
คุณซาช่า อ้อปโปว่า กล่าวเสริมว่า: “เวิร์กชอป ‘วิสัยทัศน์พลังงานหมุนเวียนไทย 2030’ ในวันนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการร่วมกันทบทวนความก้าวหน้าที่เกิดขึ้น และกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนต่อไปในอนาคต โดยเรามารวมตัวกันเพื่อหารือถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานผ่านการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน และแนวทางสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในภาคพลังงานอย่างยั่งยืน”
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการแนะนำ โครงการ Vision 2030 ซึ่งเป็นความริเริ่มใหม่ที่มุ่งสานต่อความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ระยะยาวด้านพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทย โดยคุณอินซ่า อิลเก้น ผู้อำนวยการโครงการ TGC EMC ได้เชิญชวนให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันยกระดับศักยภาพพลังงานหมุนเวียนของประเทศ และร่วมกันวางโรดแมปสำหรับการพัฒนาระบบไฟฟ้าอย่างยั่งยืนจนถึงปี พ.ศ. 2593
โดยข้อเสนอแนะและเนื้อหาจากงานเวิร์กชอปจะถูกรวบรวมเป็นส่วนหนึ่งของรายงานฉบับใหม่ของ TGC EMC ภายใต้ชื่อ “Vision 2030: Priorities for Renewables Deployment in the Thai Power System” ต่อไป